เปิดมุมมองรักตัวเองกับ 'ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่'

Last updated: 26 เม.ย 2567  |  793 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 เปิดมุมมองรักตัวเองกับ 'ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่'

เพราะเราคือคนที่ควรได้รับคำขอบคุณจากตัวเองมากที่สุด

ทุกคนเคยเป็นกันไหมครับ? ทำผิดพลาดเพียงหนึ่งครั้งกลับโทษตัวเองไม่หยุด แถมยังเอาแต่บอกว่าตัวเองเป็นคนไร้ค่า แล้วค่าของคนเรานั้นวัดจากสิ่งใดในชีวิตกันแน่ แล้วเราจะทำอย่างไรให้ตัวเราเองเชื่ออย่างสนิทใจจริงๆ ว่า คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเองเสมอ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นคนที่เราควรขอบคุณมากที่สุดก็คือตัวเราเอง วันนี้เราได้พบกับ คุณวิด หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในฐานะเจ้าของเพจ ทำเรื่องเล่นให้เป็นเรื่องใหญ่ ผู้เขียนหนังสือ วันนี้เธอขอบคุณตัวเองแล้วหรือยัง เราจึงชวนคุณวิดมาพูดคุยเปิดมุมมองผ่านแนวคิดของผู้เขียนหนังสือที่มีเนื้อหาชวนให้ทุกคนหันมารักตัวเอง และเข้าใจว่าการเห็นคุณค่าของตัวเองนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราเปลี่ยนความคิดปรับมุมมองการใช้ชีวิตให้ไม่ใจร้ายกับตัวเองจนเกินไป แต่เราจะมีแนวทางปรับเปลี่ยนความคิดของเราได้อย่างไรนั้น ลองมาสัมผัสมุมมองของคุณวิดกันครับ

 

คนเดียวที่จะบอกได้ว่าชีวิตของเรามีคุณค่าหรือไม่ก็คือตัวเราเอง

ผมคิดว่าคุณค่าของคนเราไม่ได้วัดกันที่ความร่ำรวย ชื่อเสียง หรือความสำเร็จที่มองเห็นกันจากภายนอก แต่เป็นเรื่องของความพึงพอใจในชีวิตของตัวเองมากกว่าครับ ผมชอบแนวคิดหนึ่งของญี่ปุ่นที่เรียกว่า อิคิไก ซึ่งพูดถึงความหมายของการมีชีวิต มันคือเหตุผลที่ทำให้เราอยากตื่นเช้าขึ้นมาใช้ชีวิตในทุกวัน ซึ่งจริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่อะไรก็ได้ บางทีการที่คุณยายคนหนึ่งอยากตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อเลี้ยงหลานก็เป็นอิคิไกได้แล้ว ความสำเร็จอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องการการยอมรับจากภายนอก แต่ความพึงพอใจในชีวิตนั้นเป็นมุมมองส่วนตัวเฉพาะบุคคลครับ และความสุขของคนคนหนึ่งก็อาจจะไม่เหมือนความสุขของอีกคนก็ได้ สิ่งที่สำคัญก็คือการที่เราเข้าใจในความสุขของตัวเองและยอมรับมันครับ เมื่อเราได้ทำในสิ่งที่เรารักและสิ่งนั้นสร้างคุณค่าบางอย่างให้กับผู้อื่นได้ ผมคิดว่ามันก็เป็นชีวิตที่น่าพึงพอใจแล้ว และคนเดียวที่จะบอกได้ว่าชีวิตของเรามีคุณค่าหรือไม่ก็คือตัวเราเอง

 

เรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเองและให้โอกาสตัวเองได้ลองพยายามดูใหม่อีกครั้ง

คนเรามักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เอาไหนก็ในตอนที่เราทำอะไรผิดพลาดหรือไม่ก็คาดหวังอะไรไว้แล้วมันไม่เป็นอย่างหวังครับ แล้วเราก็มักจะกอดความผิดพลาดและความผิดหวังเอาไว้กับตัวจนแน่น แถมยังเอามันมานิยามตัวตนของเราอีกว่าเราคงเป็นคนไม่เอาไหนแน่ๆ ที่จริงแล้วความผิดพลาดและความผิดหวังต่างๆ เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปครับ แล้วมันก็ไม่ใช่ตัวตนของเราด้วย วันนี้เราผิดพลาด พรุ่งนี้เราก็เรียนรู้ที่จะแก้ไขมันได้ วันนี้เราผิดหวัง พรุ่งนี้เราก็ปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ เพราะคนเราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้เสมอครับ อะไรที่พลาดไปแล้วก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไป อย่าไปยึดมันเอาไว้ แค่เก็บเกี่ยวบทเรียนจากความผิดพลาดเอาไว้ก็พอ เราต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเองและให้โอกาสตัวเองได้ลองพยายามดูใหม่อีกครั้ง

 

ความแตกต่างระหว่างเห็นคุณค่าของตัวเองกับเห็นแก่ตัว

ผมคิดว่าความเห็นแก่ตัวของคนเรามันมีรากฐานมาจากความกลัวครับ กลัวจะมีไม่พอ กลัวจะหมดคุณค่า กลัวว่าจะต้องล้าหลัง ฯลฯ ความกลัวมักจะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกขาดแคลนซึ่งทำให้เราต้องไปเบียดเบียนเอากับคนอื่น และนั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า...ความเห็นแก่ตัว ในทางกลับกัน ผมคิดว่าคนที่เห็นคุณค่าในตัวเองมักจะไม่รู้สึกขาดแคลนนะครับ บางทีเขาอาจจะไม่ได้มีทรัพย์สินเงินทองเยอแยะอะไรมากมาย แต่เขาจะมีความสุขกับชีวิตและรู้สึกเต็มอิ่มในตัวเอง ผมสังเกตว่าคนที่ไม่ค่อยมีความสุขกับชีวิตตัวเองมักจะเป็นคนที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนมากที่สุด และคนเห็นแก่ตัวก็คือคนที่ไม่เข้าใจในคุณค่าของตัวเองและไม่รู้วิธีการรักตัวเองอย่างถูกต้อง การเห็นคุณค่าในตัวเองเกิดจากความรักในตัวเอง แล้วความรักนั้นก็มักจะเผื่อแผ่ไปสู่คนรอบข้างด้วย และในทางกลับกัน ความเห็นแก่ตัวที่เกิดจากความกลัวก็มักจะแผ่อิทธิพลในทางลบไปสู่คนรอบข้างด้วยเช่นกัน

 

เมื่อพ่อแม่มักเผลอเปรียบเทียบลูกกับคนอื่นๆ โดยไม่รู้ตัว

ผมยังเชื่อว่าพ่อแม่ที่เปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกคนอื่นเขาไม่ได้มีเจตนาที่เลวร้ายอะไรครับ ลึกๆ แล้วเขาก็คงอยากจะเห็นลูกมีชีวิตที่ดี แต่สิ่งที่พวกเขาลืมไปก็คือคำว่า ชีวิตที่ดี ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนทุกคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน มีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกัน แล้วพอเราเอาจุดด้อยบางอย่างของลูกเราไปเปรียบเทียบกับจุดเด่นของเด็กอีกคน เช่น ถ้าลูกเราไม่เก่งเลขแล้วเอาเขาไปเปรียบเทียบกับเด็กที่เก่งเลข ก็จะทำให้เขาเกิดความรู้สึกด้อยค่าขึ้นมาทันที ทั้งที่จริงๆ แล้วเขาอาจจะมีทักษะที่ดีในด้านอื่นๆ อย่างเช่นเขาอาจจะเก่งศิลปะก็ได้ แต่เป็นเราเองที่ไปให้ค่าว่าทักษะด้านคิดคำนวณสำคัญกว่าทักษะทางด้านศิลปะ คุณสมบัติสำคัญที่จะทำให้คนๆ หนึ่งมีความสุขก็คือความเข้าใจในตัวเองครับ เข้าใจว่าตัวเองชอบอะไร มีความสุขกับอะไร และเมื่อเข้าใจแล้วคนรอบข้างอย่างเช่นพ่อแม่ก็ควรจะซัพพอร์ตในตัวตนของเขาด้วย ไม่ใช่เอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และความจริงอีกอย่างที่ต้องยอมรับก็คือคนทุกคนไม่มีทางประสบความสำเร็จเท่ากันครับ ความสำเร็จเกิดจากปัจจัยมากมายเหลือเกินที่เราไม่อาจควบคุมได้ทั้งหมด บางทีก็เป็นเรื่องของโชคด้วย ขอแค่เราเป็นตัวเองในแบบที่ดีที่สุดที่เป็นได้โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร ผมคิดว่าแค่นั้นก็ถือว่าเป็น ชีวิตที่ดี แล้วครับ

 

 

รักตัวเองพูดง่ายแต่ทำยาก?

การรักตัวเองเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำยากครับ เพราะมันเป็นทักษะที่ไม่ได้ติดตัวเรามาตั้งแต่เด็ก เรามักจะถูกสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าเวลาที่ใครทำอะไรให้เรา เราควรจะขอบคุณ และเวลาที่เราทำอะไรผิดไป เราก็ควรจะขอโทษ แต่ไม่ค่อยมีใครบอกเราหรอกครับว่า เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ควรจะได้รับการขอบคุณและขอโทษเช่นกันครับ ทุกครั้งที่เราพยายามตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง แต่มันก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจและเราก็ต้องไม่ลืมที่จะขอบคุณในความพยายามของตัวเองด้วย และบางทีเราก็ทำอะไรหลายอย่างที่เบียดเบียนตัวเองเหมือนกัน อย่างเช่นการฝืนทำอะไรที่มันไม่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของตัวเอง ซึ่งเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนั้นและขอโทษตัวเองด้วยเช่นกัน ความสัมพันธ์ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแล้วแต่มีพื้นฐานมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเรากับตัวเองครับ เมื่อไหร่ที่เราเป็น มิตรที่ดี กับตัวเองแล้ว ความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่นและความสัมพันธ์ของเรากับโลกก็จะดีขึ้นตามไปด้วยครับ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้