Last updated: 24 ก.ย. 2567 | 363 จำนวนผู้เข้าชม |
หากชีวิตเปรียบเสมือนการเดินทางครั้งหนึ่ง คงหลีกเหลี่ยงไม่ได้ที่จะพบเจอเรื่องราวมากมายในการเดินทางอันแสนยาวนานครั้งนี้ และในช่วงเวลาที่เกิดเรื่องเศร้าหรือเสียน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์จากการถูกคาดหวังจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ หรือแม้แต่ความทรมานจากการจากลา จะทำอย่างไรให้ก้าวผ่านมันมาได้ และสร้างความสุขให้ตัวเองได้ตลอดการเดินทางของชีวิต วันนี้เราชวนคุณ Imminimus ผู้เขียนหนังสือ ‘ขอให้พบกัน…เป็นอีกวันที่ไม่แตกสลาย’ มาร่วมแชร์มุมมองกันครับ
จริงๆ การใช้ชีวิตให้มันเรียบง่าย โดยที่ไม่คาดหวังก็แอบยากอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะบางครั้งในวันที่ธรรมดาก็เต็มไปด้วยเรื่องราววุ่นวายในชีวิต จนมองแทบไม่เห็นเลยว่าเราจะมีความสุขได้ยังไง แต่พอได้ใช้เวลานั่งนิ่งๆ กับตัวเอง ได้ทบทวนกับตัวเองแล้ว จริงๆ ความสุขนั้นซ่อนอยู่ในหัวใจเรามาตลอด ความสุขอยู่ในความคิด อยู่ในชีวิต อยู่ในจิตใจของเราเสมอ ขณะเดียวกันเมื่อไหร่ก็ตามที่เราพยายามจะไขว่คว้ามัน ความสุขนั้นอาจบินหนีไปได้
หรือใครหลายคนอาจรอให้ชีวิตลงตัว รอให้ตัวเองมีความสุขก่อน ชีวิตถึงจะดีขึ้น วันนี้ถึงจะสมบูรณ์แบบตามอุดมคติที่สังคมพร่ำบอก แล้วถ้าวันนี้ไม่มีความสุขล่ะ ถ้าวันนี้ตั้งแต่คุณลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าจนถึงวินาทีที่คุณหลับตาลงในตอนกลางคืนไม่มีความสุขอยู่เลย
วันนี้อาจเป็นแค่วันธรรมดาวันหนึ่งที่คุณใช้ชีวิตมาอย่างดี และรู้สึกว่าพอดีมากๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ หรือสุขเล็กน้อยถึงปานกลาง มีทุกข์บ้างประปราย เพราะจริงๆ แล้วชีวิตก็แค่ไม่ต้องสุขมากไปกว่านี้ก็ได้ แค่ไม่ทุกข์มากไปกว่าเดิมก็เพียงพอ
“เพราะชีวิตไม่ควรยากขนาดนั้น”
คำว่า “ประสบความสำเร็จ” ในความหมายของคุณผู้อ่านคืออะไรคะ? แล้วเราจำเป็นต้องประสบความสำเร็จแค่ไหน?
“ความสำเร็จ” ที่ว่าอาจเป็นไม้บรรทัดวัดชีวิตของใครอื่นที่ไม่ใช่ตัวเราก็ได้ค่ะ ในโลกยุคใหม่นี้ผู้คนโหยหาความสำเร็จและแข่งขันกันที่จะประสบความสำเร็จ จนชีวิตเครียดเกินไป ไม่ได้หมายความว่าว่า “การประสบความสำเร็จ” นั้นไม่ดีนะคะ แต่ถ้าเราคาดหวังและคิดวนกับมันมากไป ก็อาจจะไม่ดีต่อใครๆ เลย
หลายคนรู้สึกไม่มีความสุขเพราะยังไม่ได้มีสิ่งที่คิดว่า “อยากมี” และหลายครั้งที่ตัวบุคคลนั้นเองก็ไม่แน่ใจว่านี่คือ สิ่งที่ “จำเป็นต้องมี” ในตอนนี้หรือเปล่า
“อยากมีบ้าน” “อยากมีรถ” “อยากมีทรัพย์สิน” เหมือนใครๆ หรือรอมีบ้านก่อน รอมีรถก่อน รอมีทรัพย์สินต่างๆ ก่อน เราถึงจะมีความสุขได้นั้น จริงๆ แล้วเรามีความสุขตอนนี้ได้เลยนะคะ หายใจเข้าลึกๆ แล้วลองนึกทบทวนกับตัวเองดีๆ อีกที เราต่างมีความสุขกับตัวเองในตอนนี้ วันนี้ ได้เลย ไม่ต้องรอสิ่งนอกกายเหล่านั้นมาเติมเต็มขนาดนั้นก็ได้ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ค่อยๆ ทำความฝัน
ความสำเร็จของบางคนอาจจะเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่แตกต่างกันไป ระหว่างทางที่เดินทางไปปลายทางนั้น อย่าลืมแวะเก็บเกี่ยวความทรงจำ และกอบโกยความสุขเล็กๆ ระหว่างทางด้วยนะคะ
เราเองคงไม่ได้มีคำแนะนำพิเศษอะไรค่ะ เพราะเราต่างก็มีช่วงเวลาแบบนั้นกันทั้งนั้น ช่วงเวลาที่หลงทางยังค้นหาตัวเองไม่เจอ ความรู้สึกไม่เป็นตัวเองก็อาจพบเจออยู่บ่อยครั้ง
หลายครั้งเราต่างต้องการเป็นที่ยอมรับค่ะ อาจจะเป็นคุณ เป็นเราเอง หรือใครๆ เราอยากเป็นที่ยอมรับในสังคม และปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าหลายครั้งเราก็ปลอมตัวเป็นใครคนอื่นได้อย่างแนบเนียน เพียงเพื่ออยากให้ใครๆ มายอมรับในตัวเรา หรือเป็นพาร์ทของการเติบโต ที่เราอาจจะต้องเรียนรู้หรือเลียนแบบบางสิ่งบางอย่าง เพื่อให้ได้พบกับตัวตนของเราในอีกเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น
หากวันนี้รู้สึกไม่เป็นตัวเองก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ ค้นหาตัวตนและยอมรับทุกๆ ช่วงจังหวะในชีวิต แม้จะหลงทางบ้าง เราก็สามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านี้และค่อยๆ เติบโตต่อไปได้ หากวันนี้ยังไม่แน่ใจว่าชอบอะไรหรืออยากทำอะไรจริงๆ ก็ไม่เป็นอะไรเลย แค่รู้ว่าทำอะไรแล้วมีความสุขได้บ้างก็พอ แค่เล็กน้อยก็ยังดี
หลายครั้งที่ผู้คนมักให้คุณค่ากับการทำงาน อาจเพราะการทำงานทำให้ผู้คนรู้สึกมีค่า จนมักลืมไปว่าการพักผ่อนบ้างก็เป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตเช่นกัน
หลายครั้งที่ผู้คนอาจเผลอรู้สึกผิดเวลาที่ตัวเองได้พักผ่อน เพราะอาจคิดว่าเสียเวลา ทั้งที่จริงๆ การพักผ่อนก็จำเป็น แค่เอนกายลงบนที่นอน ดูหนังสักเรื่องที่ชอบ ฟังเพลงที่ชอบบ้าง อ่านหนังสือเล่มโปรด ก็ไม่เป็นอะไรเลย ถ้าหากวันนี้เราต้องการพักผ่อน
การพักผ่อนเป็นสิ่งที่ดีนะ ให้เวลากับตัวเองได้พักผ่อนบ้าง แค่อย่าโทษตัวเองหรือรู้สึกผิด หากวันนี้ต้องการพัก เราต่างควรมีช่วงเวลาที่ได้พักผ่อน โปรดอย่าลืมหาเวลาพักผ่อนบ้างนะคะ
อาจไม่มีวิธีจัดการกับความเจ็บปวดที่ดีที่สุด แต่เป็นการจัดการแบบไหนที่เหมาะสมกับใจเรามากที่สุด เพราะทุกคนแตกต่างกัน มีความอดทน ความเข้มแข็ง ความอ่อนไหวที่แตกต่างกัน เราต่างก็เติบโตมาไม่เหมือนกัน
บางคนยอมรับความจริงได้ บางคนหลีกเลี่ยง บางคนเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน แต่ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ ด้วยว่าใจเราจะไหวแค่ไหนที่จะยอมรับหรือเลี่ยงไปก่อน แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วไม่ว่ายังไงความจริงก็จะมาเคาะประตูบ้านเรา เพื่อให้เรายอมรับมันอยู่ดี และสักวันเราจะยอมรับกับความจริงได้ ยอมรับความเจ็บปวดได้
แม้หลายครั้งที่มนุษย์อย่างพวกเราต้องเผชิญกับความเจ็บปวด เราต่างมีวิธีจัดการความเจ็บปวดนั้นที่แตกต่างกันออกไป แม้หลีกเลี่ยงได้บางจังหวะ แต่ชีวิตก็จะดึงๆ ให้เรากลับมาสู่โหมดยอมรับความจริงได้ในท้ายที่สุดเอง บางครั้งความจริงก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น มันอาจเป็นยาขนานแรงที่ช่วยให้บาดแผลของเราหายดีได้มากขึ้นก็ได้
ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน สักวันหนึ่งความเจ็บปวดนั้นจะคลี่คลายไป แล้ววันนั้นคุณจะหายดี
30 ก.ค. 2567
3 พ.ค. 2567