ในทุกความสัมพันธ์ อย่าลืมไปว่าใจเราสำคัญเสมอ

ในทุกความสัมพันธ์

อย่าลืมไปว่าใจเราสำคัญเสมอ

หลายคนมีความสุขเพราะความรัก หลายคนต้องเจ็บปวดก็เพราะความรัก หลายคนนิยามความรักว่าเป็นทุกอย่างของชีวิต แล้วแท้จริงแล้วความรักคืออะไร คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แม้ว่าเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายหรือหน้าตาของสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรัก’ เสียที  

วันนี้ DOT เชิญคุณทิง เจ้าของเพจ Facebook ‘วันนี้เจอนั่น’ และผู้เขียนหนังสือ ‘อย่าลืมไปว่าใจเราสำคัญนะ’ มาร่วมพูดคุยเรื่องความรักด้วยกันครับ 

ก่อนอื่นเราอาจจะต้องมาพูดถึงความยากง่ายของความรักก่อนที่จะมาพูดคุยกันถึงนิยามของมัน เพราะเป็นที่ถกเถียงกันมากเหลือเกินว่าจริงๆ แล้ว ความรักเป็นเรื่องง่ายหรือเรื่องยากกันแน่ ทำไมบางคนถึงมีความรักได้อย่างง่ายดาย รักใครชอบใครก็สมหวัง คุยกับใครก็ได้คบ คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนแต่งงานก็มีเยอะ แต่กับบางคนความรักนั้นก็เป็นเรื่องยากจนหืดขึ้นคอ จำต้องผิดหวังซ้ำซากกับเรื่องความรักอยู่เรื่อย ดูดวงสำนักไหนก็ไม่มีใครให้คำตอบได้เลยว่ารักแท้จะเดินทางมาถึงเมื่อไหร่


แล้วในมุมของคุณทิง…ความรักนั้นเป็นเรื่องยากหรือง่าย

ทิงยังขอยืนยันว่าความรักเป็นเรื่องยากเสมอ ซึ่งผมมองว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ความรัก ความสัมพันธ์จะยุ่งยากและซับซ้อน หลายครั้งเราอาจอยากให้ความรักง่ายดายราบรื่นไปเสียหมด แต่ในมุมมองของทิงคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะความรักมีหลายสิ่งหลายอย่างห้อมล้อมมันอยู่ เช่น ความคาดหวังในตัวคนรัก ความหวังในอนาคต การเติบโตที่แตกต่างกันของคนทั้งคู่ ครอบครัว เพื่อนฝูง การงาน บริบทสังคมอื่นๆ ที่มีผลกับความรัก เป็นต้น สิ่งสำคัญอาจไม่ใช่ว่า ความรักในครั้งนี้ควรง่ายสำหรับเราแค่ไหน แต่คือเราจะจับมือกันฟันฝ่าเรื่องยากๆ ที่ต้องพบเจอไปด้วยกันอย่างไรมากกว่า


ความรักสำหรับคุณทิงในวันนี้มีเรื่องราวหรือความหมายแบบไหน

ความหมายของความรักในมุมมองของทิงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ในวัยเด็ก ความรักเป็นความแปลกใหม่ ในวัยรุ่น ความรักเป็นความตื่นเต้น ในวัยผู้ใหญ่วันนี้ ความหมายของความรักคือ ‘บ้าน’ ครับ คือพื้นที่ปลอดภัยที่ทำให้เรารู้สึกเป็นตัวเองได้อย่างอุ่นใจ คือพื้นที่ที่ไม่ว่าเราจะใช้ชีวิตข้างนอกอย่างหนักหนาหรือบาดเจ็บมาจากไหน เราจะยังมี ‘บ้าน’ รอให้กลับไปพักผ่อน ฮีลใจตัวเองเสมอ

เคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วว่า บางครั้งบ้านก็ไม่ใช่สถานที่ แต่เป็น ‘ผู้คน’ ความรู้สึกของทิงต่อคำว่าความรักเป็นแบบนั้น กลายเป็นว่าความหมายของความรักในวัยผู้ใหญ่ไม่ใช่ความยิ่งใหญ่ อลังการตระการตาดาวล้านดวงแบบในนิยาย หนังหรือละคร แต่เป็นความธรรมดาที่พิเศษและมีความหมายกับชีวิตมากกว่า


คำแนะนำสำหรับคนที่อยากมีความรักที่ดี แต่ลงสนามมาเยอะ ผิดหวังมาก็มากจนหมดหวังกับความรักไปแล้ว 

แนะนำให้อ่านหนังสือ ‘อย่าลืมไปว่าใจเราสำคัญนะ’ ก่อนเลยเป็นอันดับแรก (ฮ่าๆๆ) หลังจากนั้นให้ลองมองว่า ชีวิตเราไม่ได้มีเพียงด้านใดด้านเดียวให้โฟกัสครับ นอกจากการมีแฟน เรายังมีความรักในรูปแบบอื่นอีกมากมาย เช่น ความรักจากคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ความรักที่มีให้ตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น เรายังมีหน้าที่การงาน มีความฝันที่ยังต้องสร้างให้เป็นจริง มีเป้าหมายที่ยังต้องไปให้ถึงอยู่

เข้าใจดีว่า เวลาผิดหวังจากใครสักคน มันมักจะดูใหญ่โตท่วมท้นไปหมด จนเรามองไม่เห็นภาพรวม ภาพกว้างของชีวิต ลองถอยออกมานะครับ แล้วมองดูว่า ภาพใหญ่ของชีวิตในด้านอื่นๆ ยังอยู่ดีไหม เราสูญเสียหรือหมดหวังกับทุกเรื่องในชีวิตเลยหรือเปล่า คำแนะนำต่อมาคือ ผิดหวังแล้วยังไง ผิดเหรอที่เราผิดหวัง ตั้งคำถามดูว่า มีใครบนโลกใบนี้ไม่ผิดหวังอย่างเราบ้าง ซึ่งทิงคิดว่าคงไม่มี

แม้กระทั่งคนที่เราคิดว่าเขาสมบูรณ์แบบสุดๆ ก็ยังต้องผ่านความผิดหวังช้ำใจมานักต่อนักแล้วเหมือนกัน ความผิดหวังคือเรื่องธรรมดาครับ ปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับมันสักนิด คงไม่เป็นไร ให้ตัวเองได้เรียนรู้ว่า “อ๋อ ความผิดหวังซ้ำๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง” แล้วค่อยๆ ใช้ชีวิตอยู่กับมัน ค่อยๆ เรียนรู้จากมัน จนวันหนึ่งเราค่อยๆ สร้างความหวังครั้งใหม่ขึ้นมาได้ แต่สิ่งที่ไม่แนะนำคือการเหมารวม เช่น เราผิดหวังเสมอ เจอคนแย่ๆ มาเยอะ ไม่มีทางที่จะได้เจอรักดีๆ อีกแล้ว

ความรักไม่มีสูตรสำเร็จ แล้วการรักษาความสัมพันธ์มีสูตรไหม 

‘ความรักไม่มีสูตรสำเร็จ’ การรักษาความสัมพันธ์เองก็ไม่มีครับ เพราะความรักเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล เราไม่สามารถ copy and paste วิธีการของใครมาใช้กับตัวเองและคนรักของเราได้ แต่หากถามถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ผมคิดว่า มี 2 สิ่งที่เป็น ‘ปัจจัย’ ที่ดีในการรักษาความสัมพันธ์ คือ 

1. ‘Communication’ หรือ ‘การสื่อสาร’ อย่าหยุดพูดคุย หรือหยุดสื่อสารกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เมื่อใดก็ตามที่คนรักกันหยุดพูดคุยกัน นั่นอาจหมายถึงว่าความรักของเรากำลังมีปัญหาแล้ว 

 2. ‘Boundary’ หรือ ‘ขอบเขต’ เมื่อรักกันไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนคนเดียวกันจริงๆ  ผมเชื่อแบบนั้นนะ ‘รักกัน’ หมายถึง เราเองก็ยังมีชีวิตของเรา ส่วนเขาเองก็ยังมีชีวิตของเขา ชีวิตเราทั้งคู่ไม่ได้เป็นของกันและกัน เราต้องเคารพขอบเขต ให้เกียรติพื้นที่ชีวิตของอีกฝ่าย โดยไม่รุกล้ำกันและกัน


เวลามีความรัก บางคนมักเผลอให้ความสำคัญกับคนรักจนทำร้ายใจตัวเอง เราควรทำอย่างไรที่จะรักษาความสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กับรักษาใจของตัวเองไว้ให้ดีด้วย

ทิงมองว่า การรักษาหัวใจของตัวเองเอาไว้ให้ดี คือสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ไม่ว่าวันนี้เราจะมีความสัมพันธ์กับใครหรือไม่ การรู้จักดูแลความรู้สึกของตัวเอง รู้จักรักตัวเองนั้น จะทำให้เรามีโอกาสพาตัวเองไปอยู่กับคนใจร้ายน้อยลง แต่ถึงอย่างนั้น หากเราเผลอไปรักคนใจร้ายแล้ว สิ่งที่เราควรทำคือการพาตัวเองออกมา ทิงคิดว่าเราทุกคนรู้ อยู่ที่จะทำได้หรือเปล่า บางครั้งความจริง คำตอบหรือทางออกอยู่ตรงหน้าแล้วล่ะ อยู่ที่เราเองว่า พร้อมจะเลือกหรือยอมรับมันไหม

ในชีวิตจริง เราไม่ได้มีเครื่องวัดปริมาณความรักติดตัวเพื่อบอกว่า ตอนนี้เรารักใครไปเท่าไหร่หรือความรักที่เรามีให้ตัวเองลดลงไปเท่าไรแล้ว บางครั้งการรักคนอื่นไปพร้อมๆ กับการรักตัวเองด้วยจึงบาลานซ์ยาก

ทิงแนะนำว่า ในระหว่างที่เรารักใครสักคน “อย่าลืมเช็กต์สภาพใจตัวเองเสมอ” วันนี้อาการเราเป็นอย่างไร การรักกับเขาทำให้เรารู้สึกอย่างไร วันนี้เราร้องไห้ไหม เจ็บปวดไหม มีความสุขไหม เราจะได้รู้ว่า เมื่อรักกับคนๆ นี้ ใจเรากำลังพังหรือพองโตกันแน่ พูดง่ายๆ คือ รักเขาแบบเราเองก็รู้ตัว รักษาความสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยไม่ลืมตัวเองครับ